วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การหุงข้าว

              ในอดีต คนไทยหุงข้าวแบบเช็ดน้ำ  คือ  การต้มข้าวสารกับน้ำจนเกือบสุก  จากนั้นเทน้ำข้าวออก แล้วตั้งไฟอ่อนๆ รอให้ข้าวพองตัวสุกเต็มที่  ข้าวสวยที่ได้จึงสุกนุ่มน่ากิน แต่การหุงข้าววิธีนี้สูญเสียสารอาหารจำนวนมากไปกับน้ำ ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นการหุงข้าวด้วยการนึ่งอาหารให้สุกแทน  ซึ่งใช้หลักการเดียวกับการหุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าในปัจจุบัน โดยนำมาซาวผ่านน้ำ 1 ครั้งแล้วใส่ลงในภาชนะทนความร้อน  เติมน้ำ 1.5 ส่วนต่อข้าวสาร  1 ส่วน  แต่ถ้าหุงข้าวกล้องต้องเติมน้ำ 2 ส่วนต่อข้าวสาร 1 ส่วน แล้วจึงนำไปนึ่งให้สุก   ทั้งนี้ระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดของภาชนะและปริมาณของข้าวที่ใช้  การหุงข้าวด้วยวิธีนี้จะช่วยรักษาปริมาณสารอาหารในเมล็ดข้าวไว้ได้มากกว่าวิธีหุงข้าวแบบเช็ดน้ำ

                     ปัจจุบันมีผู้คิดค้นผลิตหม้อหุงข้าวไฟฟ้าขึ้น  เพื่ออำนวยความสะดวก เหมาะกับครอบครัวที่                 นิยมทำอาหารรับประทานเองโดยหลักการทำให้ข้าวสุกนั้นเหมือนกับการหุงข้าวแบบไม่เช็ดน้ำใน               สมัยก่อน  อีกทั้งยังรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ได้อย่างดีอีกด้วยซึ่งได้ยกตัวอย่างการหุงข้าวเจ้าต่าง ๆ ไว้ดังนี้
-          ข้าวหอมมะลิ                    ใช้ข้าวสาร  2  ถ้วย      :           น้ำ        2 ½      ถ้วย
-          ข้าวขาวธรรมดา                ใช้ข้าวสาร  2  ถ้วย      :           น้ำ        3          ถ้วย
-          ข้าวกล้องหอมมะลิ            ใช้ข้าวสาร  2  ถ้วย      :           น้ำ        4          ถ้วย
-          ข้าวกล้องธรรมดา              ใช้ข้าวสาร  2  ถ้วย      :           น้ำ        5          ถ้วย


อ้างอิง     ข้าวทำอะไรก็อร่อย._กรุงเทพฯ : อมรินทร์. พิมพ์ครั้งที่ 1